บอกก่อนเลยนี่เป็นบล็อกแรกในชีวิตในการเขียนบล็อกค่ะ อาจจะไม่เก่งเหมือนมืออาชีพเขียนบล็อกอย่างคนอื่นๆที่มีประสบการ์ณ แต่ก็จะพัฒนาฝือมือตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ แนวคิดในการเขียนนี่ก็อยากแชร์ประสบการ์ณในการเดินทางท่องเที่ยวและอาหาร เพราะเป็นชอบเดินทางและชอบกินมากๆ ฮ่า ๆๆๆ ก็เลยอยากแชร์ประสบการ์ณให้คนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ได้ประสบการ์ณในการเดินทางไปด้วยกันและเป็นแนวทางของคนที่ชอบเดินทางกันค่ะ
นั้นเอาเป็นว่าการเขียนครั้งแรกนี้เป็นการเที่ยวทะเลค่ะ คือ เกาะปันหยี่ เป็นเมืองเสห่น์ที่อยู่ใน จังหวัดพังงา ทริปนี่ไม่ได้ไปเดี่ยวน่ะค่ะ ครั้งนี้ไปกับครอบครัวค่ะจำได้เป็นช่วงที่กลับจาก กทม. แน่นอนค่ะบ้านเกินกายอยู่ที่ จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดขึ้นชื่อเรื่องหมูย่าง ยืนยันว่าอร่อยจริง เพื่อนๆที่ กทม. ฝากชื้อกลับมาเป็นประจำ (นอกเรื่องนิดนึ่ง555) จริงๆแล้ว ตรังกับพังงาก็อยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ ขึ้นรถจากบ้าน(ตรัง)ไปถึงพังงา ก็ประมาณ ชั่งโมงกว่าๆ ถ้าขับเรื่อยๆชมวิวก็สองชั่วโมงได้ค่ะ
เป็นภาพที่ต้องติดต่อกับเจ้าขอเรือค่ะ มีหลายเจ้าให้เราเลือก สามารถต่อรองราคาได้ ที่นี้พี่ๆเค้าใจดี
ได้เรือแล้วก็รีบออกเดินทางเลยค่ะ แต่แนะนำให้ไปตอนเช้าๆน่ะ อากาศดี๊ดี แดดไม่ร้อน คนน้อยเหมาะสำหรับการถ่ายรูปภาพ เหมือนอยู่ในเกาะส่วนตัวเลยยยย555
#เป็นบรรยากาศระหว่างการเดินไปเกาะตะปูค่ะ
ภาพด้านล้าง ถึงเกาะตะปูแล้ววววววว........(เขาตาปู)
ถึงแล้ว....กระโดดกันหน่อยยยยยย555555
ในเกาะนี้ยังมี เขาพิงกัน ด้วยค่ะ ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสิ่งสวยงามและมหัศจรรย์มากกกก
เขาพิงกันจริงๆๆ นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกันตรงนี้ค่ะ
ม๊าเค้าเอง.......จะสวยไปใหนเนี้ย555555
ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ก็นั่งเรือวนกลับไป ที่ถ้ำลอดค่ะ เพราะเราผ่านถ้ำลอดก่อนเขาตะปูค่ะ
#ถ้ำลอด
ภาพด้านล่างนี้ เป็นเรือ ขายน้ำค่ะ มีน้ำมะพร้าวด้วยน่าาาาา
จากนั้นก็กลับมาที่เกาะปันหยี่กันเลยค่ะ (เรือที่เราขึ้นทุกลำจะตรงไปที่เขาตะปูก่อนเลยค่ะ มันจะผ่าน เกาะปันหยี่ และถ้ำลอด ตามลำดับ )
#ถึงแล้วเกาะปันหยี่
นี่โรงเรียนเกาะปันหยีค่ะ
ส่วนนี้คือ สนามบอลเกาะปันหยี เป็นสนามที่ลอยน้ำที่เดียวในประเทศไทยค่ะ หลายคนอาจจะเลยเห็นแล้วในโฆษณามาบ้างแล้ว
ท้องฟ้า ภูเขา ทะเล คือสวยมากจริงๆ ในรูปอาจไม่สวยเท่าของจริง แต่รับประกันว่าคุณจะไม่เสียใจแม้แต่น้อยที่มา และสิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาเดินทางครั้งนี้คือ สีผิวค่ะ 555555 และที่สำคัญโปรดรักษาธรรมชาติด้วยน่ะค่ะ อย่าทิ้งอะไรไว้ นอกจาก รอยเท้าที่เราเยียบบนพื้นทราย สำหรับคนที่ต้องการจะมาเที่ยวควรหาข้อมูลก่อนจะเป็นการดีมากค่ะ ไม่ใช่ว่าจะมาช่วงใหนก็ได้น่ะ ถ้ามรสุมเข้านี้เสียเที่ยวเลยน่าาาาาาา
ทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี่น่ะค่ะ และสามารถสอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ค่ะ จะตอบกลับทุกคำถามที่ถามมาน่ะ
#อีกไม่ช้าแล้วเราเจอกันในทริปต่อไป...........................
ได้เรือแล้วก็รีบออกเดินทางเลยค่ะ แต่แนะนำให้ไปตอนเช้าๆน่ะ อากาศดี๊ดี แดดไม่ร้อน คนน้อยเหมาะสำหรับการถ่ายรูปภาพ เหมือนอยู่ในเกาะส่วนตัวเลยยยย555
#เป็นบรรยากาศระหว่างการเดินไปเกาะตะปูค่ะ
ภาพด้านล้าง ถึงเกาะตะปูแล้ววววววว........(เขาตาปู)
ถึงแล้ว....กระโดดกันหน่อยยยยยย555555
ในเกาะนี้ยังมี เขาพิงกัน ด้วยค่ะ ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสิ่งสวยงามและมหัศจรรย์มากกกก
เขาพิงกันจริงๆๆ นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกันตรงนี้ค่ะ
ม๊าเค้าเอง.......จะสวยไปใหนเนี้ย555555
ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ก็นั่งเรือวนกลับไป ที่ถ้ำลอดค่ะ เพราะเราผ่านถ้ำลอดก่อนเขาตะปูค่ะ
#ถ้ำลอด
ภาพด้านล่างนี้ เป็นเรือ ขายน้ำค่ะ มีน้ำมะพร้าวด้วยน่าาาาา
จากนั้นก็กลับมาที่เกาะปันหยี่กันเลยค่ะ (เรือที่เราขึ้นทุกลำจะตรงไปที่เขาตะปูก่อนเลยค่ะ มันจะผ่าน เกาะปันหยี่ และถ้ำลอด ตามลำดับ )
#ถึงแล้วเกาะปันหยี่
นี่โรงเรียนเกาะปันหยีค่ะ
ส่วนนี้คือ สนามบอลเกาะปันหยี เป็นสนามที่ลอยน้ำที่เดียวในประเทศไทยค่ะ หลายคนอาจจะเลยเห็นแล้วในโฆษณามาบ้างแล้ว
ท้องฟ้า ภูเขา ทะเล คือสวยมากจริงๆ ในรูปอาจไม่สวยเท่าของจริง แต่รับประกันว่าคุณจะไม่เสียใจแม้แต่น้อยที่มา และสิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาเดินทางครั้งนี้คือ สีผิวค่ะ 555555 และที่สำคัญโปรดรักษาธรรมชาติด้วยน่ะค่ะ อย่าทิ้งอะไรไว้ นอกจาก รอยเท้าที่เราเยียบบนพื้นทราย สำหรับคนที่ต้องการจะมาเที่ยวควรหาข้อมูลก่อนจะเป็นการดีมากค่ะ ไม่ใช่ว่าจะมาช่วงใหนก็ได้น่ะ ถ้ามรสุมเข้านี้เสียเที่ยวเลยน่าาาาาาา
ทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี่น่ะค่ะ และสามารถสอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ค่ะ จะตอบกลับทุกคำถามที่ถามมาน่ะ
#อีกไม่ช้าแล้วเราเจอกันในทริปต่อไป...........................





















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น